วัตถุดิบขึ้นราคาเป็นปัญหาที่ทำให้ผู้ประกอบการต่างหนักใจ เพราะเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งที่ผู้ประกอบการทำได้ก็คือการปรับตัวและหาวิธีการทำให้ร้านอาหารอยู่รอดในทุกสถานการณ์ วันนี้ Hungry Hub จึงได้รวบรวมวิธีการจัดการรับมือปัญหา วัตถุดิบขึ้นราคา มาไว้ในบทความนี้แล้ว
ทำไมราคาอาหารแพง เพราะอะไร วัตถุดิบขึ้นราคา ?
“ข้าวยาก หมากแพง” เป็นประโยคที่หลายคนคงคุ้นหูกันดี คงจะได้ยินกันมาในทุกยุคทุกสมัย และยังคงใช้ได้ในบริบทปัจจุบัน ที่มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ พุ่งสูงขึ้น รวมถึงวัตถุดิบในการประกอบอาหารด้วยเช่นกัน
โดยปัจจัยที่ทำให้ราคาอาหารแพงและ วัตถุดิบขึ้นราคา เป็นผลมาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญของโลก กลุ่มประเทศเอเปกลดการผลิตน้ำมันลง รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ความต้องการบริโภคน้ำมันสูงเกินกว่ากำลังการผลิต ส่งผลต่อต้นทุนการผลิต ต้นทุนสินค้า และค่าขนส่ง นอกจากนี้ยังมีปุ๋ยเคมีที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ทำให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของเกษตรกร ส่งผลให้สินค้าเกษตรทั้งผัก ผลไม้ และสินค้าเกษตรอื่นๆ มีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
รวม 4 วิธี รับมือ วัตถุดิบขึ้นราคา ร้านอาหารต้นทุนลดลง รายได้เพิ่มขึ้น
1. หา Supplier ทางออนไลน์
![วัตถุดิบขึ้นราคา มองหา Online Supplier](https://business.hungryhub.com/wp-content/uploads/2022/06/2bloggg-1024x654.png)
ข้อดีของการหา Supplier ทางช่องทางออนไลน์ นอกจากจะช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุน เรื่องค่าใช้จ่ายในการออกไปตามหาวัตถุดิบในแต่ละที่แล้ว ยังช่วยทำให้ผู้ประกอบการสามารถเปรียบเทียบราคาจากแต่ละ Suppliers ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถทำการหาวัตถุดิบแต่ละชนิดพร้อม ๆ กันได้โดยไม่ต้องเดินทางไปหลาย ๆ ที่ ลดทั้งต้นทุนในการเดินทางและเวลาที่ต้องเสียในการตามหา โดยในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่อำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อวัตถุดิบ เช็คราคาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให่้ผู้ประกอบการ/เจ้าของร้าน สามารถเฟ้นหาวัตถุดิบในราคาที่พึงพอใจมากที่สุด เมื่อผู้ประกอบการได้วัตถุดิบในราคาที่ถูก ทำให้ต้นทุนในแต่ละเมนูมีราคาต่ำลง ร้านอาหารจึงสามารถจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าร้านอื่น ๆ ในตลาดได้ ดึงดูดผู้บริโภคให้เลือกใช้บริการร้านเราได้มากขึ้น
2. ลดการใช้วัตถุดิบราคาแพง
![ลดการใช้ วัตถุดิบราคาแพง](https://business.hungryhub.com/wp-content/uploads/2022/06/2blogg.webp)
ร้านอาหารสามารถลดการใช้วัตถุดิบราคาแพง โดยการจัดทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย นำเสนอเซ็ตเมนูที่มีราคาต้นทุนวัตถุดิบสูง เสิร์ฟคู่กับวัตถุดิบที่ราคาถูกกว่า ให้ลูกค้าได้มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และยังเป็นการลดการใช้วัตถุดิบราคาแพงให้กับร้านอาหาร เช่น บุฟเฟ่ต์โอโทโร่ จากเดิมทำโปรโมชันบุฟเฟ่ต์โอโทโร่ ที่เสิร์ฟแต่โอโทโร่ล้วน ร้านอาหารสามารถจัดโปรโมชั่นเป็นบุฟเฟ่ต์บลูฟินทูน่า ที่มีทั้งโอโทโร่ ชูโทโร่ และอากามิ ลูกค้าที่ชื่นชอบโอโทโร่ก็ยังได้ทานโอโทโร่ พร้อมเสริมด้วยส่วนอื่น ๆ ทีมีต้นทุนถูกกว่า เป็นการช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบราคาแพง วิธีนี้ไม่ใช่การลดคุณภาพของวัตถุดิบ โปรโมชั่นนี้ยังคงดูมีคุณค่า และไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเสียเปรียบ
3. Up-selling เพิ่มยอดขาย
![Up-selling เพิ่มยอดขาย วัตถุดิบขึ้นราคา](https://business.hungryhub.com/wp-content/uploads/2022/06/2blog-1-1024x682.webp)
การปรับราคาขาย ดูจะเป็นทางออกสำหรับปัญหา วัตถุดิบขึ้นราคา แต่ในมุมของลูกค้า การขึ้นราคาเป็นเรื่องเซนซิทีฟ แนวทางที่จะช่วยทำให้ร้านอาหารสามารถขายแพงขึ้นได้ คือการทำโปรโมชัน จัดเซ็ตเมนู หรือทำเมนูพิเศษ เป็นเทคนิคการเพิ่มยอดขายต่อออเดอร์ แบบ Up-selling
วิธีการเพิ่มยอดขายต่อออเดอร์โดยการ Up-selling จัดเป็นเทคนิคการตลาดที่สามารถเพิ่มยอดขายที่ร้านอาหารนิยมใช้ในปัจจุบัน เป็นการทำให้ลูกค้ายอมจ่ายแพงขึ้นด้วยความเต็มใจ ไม่รู้สึกว่าร้านอาหารขึ้นราคา โดยการ Up-selling สามารถทำได้ โดยการจัดเซ็ตเมนู โดยการเพิ่มความพิเศษบางอย่างไปในเซ็ต เช่น Party Pack เลือกได้ 4 เมนู เป็น 1 เมนูพรีเมียมที่น่าดึงดูด กับเมนูทาปาส หรือเมนูทานเล่น 3 เมนู เป็นต้น ร้านอาหารจะได้รายได้ต่ออเดอร์มากขึ้น โดยการใช้ต้นทุนไม่สูง เพราะเมนูทานเล่นมักจะมีต้นทุนไม่สูงนั่นเอง
4. โปรรวม Free flow เครื่องดื่มไม่อั้น!
![Free flow เครื่องดื่ม วิธีรับมือ วัตถุดิบขึ้นราคา](https://business.hungryhub.com/wp-content/uploads/2022/06/2blogggg-1024x683.jpeg)
จากเดิมที่ขายได้เพียงแต่อาหาร การจัดโปรโมชั่นอาหารพร้อมเครื่องดื่ม Free flow เครื่องดื่ม Mocktail โดยเพิ่มราคาโปรโมชั่นให้สูงขึ้นจากเดิม ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับลูกค้า เป็นข้อเสนอพิเศษให้ลูกค้ามีตัวเลือกเพิ่มขึ้น ลูกค้าเห็นถึงความคุ้มค่าและยินดีที่จะจ่าย เพราะโดยปกติเครืองดื่ม Mocktail นั้นมีราคาค่อนข้างสูง ด้วยวิธีการทำและการพรีเซนท์ หน้าตาของแก้วยังมีความสวยงาม แฟนซี และคล้ายคลึงกับเครื่องดื่ม Cocktail แตกต่างกันที่เครื่องดื่ม Mocktail จะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่อยากกลมกลืนไปกับบรรยากาศของร้าน เครื่องดื่ม Mocktail จึงกลายมาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ร้านอาหาร/ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ใช้ในการเพิ่มคุณค่าและรายได้ให้กับร้านอาหาร
นอกจากนี้ หากลูกค้าเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มแต่ละเมนู ก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกอิ่มจนไม่สามารถทานเมนูอาหารหลักได้มากนัก ทำให้ร้านอาหารสามารถประหยัดต้นทุนในด้านของวัตถุดิบเมนูอาหาร และไปเพิ่มต้นทุนในด้านเครื่องดื่ม ซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก ตัวอย่างร้านอาหารที่มีโปรโมชั่นรวมเครื่องดื่ม Free flow ไม่อั้น เช่น Hide Tide Eatery & Bar ร้านอาหารฟิวชั่น บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดเซ็ต Party Pack โดยลูกค้าจะได้รับ Three Dishes และ Free Flow Mocktail (2 Hours) ในราคา 1,090 บาทต่อท่าน
ทั้งหมดนี้คือ วิธีจัดการหากวัตถุดิบขึ้นราคา ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาจากประสบการณ์ตรงของผู้บริหารจาก Hungry Hub แพลตฟอร์มจองร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำ ถ้าหากผู้ประกอบการท่านไหนสนใจที่จะเข้าร่วมกับเราสามารถติดต่อมาได้ที่ Line : @hhforbusiness
หากร้านอาหารใหม่ สนใจอยากเข้าร่วม กับ Hungry Hub เพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : คลิก
อ่านบทความสำหรับผู้ประกอบการ ธุรกิจร้านอาหาร เพิ่มเติม
- รวมเทคนิค ธุรกิจบุฟเฟ่ต์ ลูกค้าทานเหลือ ทำยังไง?
- 4 วิธี เพิ่มยอดขาย ร้านอาหารที่นั่งน้อย สำหรับ ร้าน Omakase /Chef’s Table และ Fine Dining
- 4 วิธีเพิ่มยอดขายให้ร้าน ด้วย การตลาด Gift Card
- ทำความรู้จัก ฮังกรี้ฮับ กิ๊ฟการ์ด บัตรกำนัลที่พิเศษ ไม่เหมือนใคร
- ทำไม ร้าน Fine Dining ถึงครองใจลูกค้า ไขความลับเทรนด์การทานอาหารแบบพรีเมี่ยม
- รวม 5 สิ่ง ที่ลูกค้ามามองหาในโปรโมชั่น Staycation การตลาด โรงแรม 2022