คุณพงศ์ธรรศ เลิศธนพันธุ์ ผู้บริหาร เรือนเพชรสุกี้ รุ่นที่ 3 ร้านสุกี้สไตล์ไหหลำที่มีชื่อเสียงจากรุ่นสู่รุ่น บอกเล่าเรื่องราวการปรับตัวของร้านอาหารเก่าแก่ ให้อยู่รอดภายใต้การแข่งขันดุเดือดของธุรกิจร้านอาหารสุกี้ชาบู เผยถึงแนวทางการพัฒนาร้านให้เหนือกว่าคู่แข่ง และกลยุทธ์ในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ อย่าง Gen Y ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่สำคัญในปัจจุบัน
เรือนเพชรสุกี้ ร้านสุกี้ระดับตำนาน ที่เปิดมานานกว่า 54 ปี
“เรือนเพชรสุกี้” ร้านสุกี้สไตล์ไหหลำ มีเอกลักษณ์ คือ เนื้อสัตว์หมักเต้าเจี้ยวสูตรลับ โปะหน้าด้วยไข่สด เสิร์ฟในจานเปลสเตนเลส ก่อตั้งโดยคุณปู่ ปัจจุบันมาถึงรุ่นหลาน สืบทอดมาถึงรุ่นที่ 3 โดยยังคงคุณภาพและรสชาติแบบออริจินัลไว้ได้ไม่มีตกหล่น สิ่งที่ทำให้ร้านเรือนเพชรสุกี้ พิเศษกว่าร้านสุกี้ทั่วไปคือความหลากหลายของเมนูอาหารจีนไหหลำ นอกเหนือจากเมนูสุกี้ เป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าที่อยากลองอะไรแปลกใหม่
ร้านในตำนาน กับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่
เป็นที่รู้กันดีว่า ร้านเรือนเพชรสุกี้ เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมาอย่างยาวนาน ทำให้ฐานลูกค้าหลักของ เรือนเพชรสุกี้ คือกลุ่ม Generation Baby Boomer ไปจนถึง Gen X ด้วยสไตล์ร้านอาหารและภาพลักษณ์แบรนด์ ที่อาจจะยังไม่สามารถเจาะไปถึงตลาดกลุ่มลูกค้า Gen Y ได้ คุณพงศ์ธรรศ เลิศธนพันธุ์ ผู้บริหารเรือนเพชรสุกี้ รุ่นที่ 3 จึงต้องการขยายไปยังกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ เพื่อเปิดตลาดใหม่ๆ ให้กับเรือนเพชรสุกี้ สามารถส่งต่อการรับรู้แบรนด์เรือนเพชรสุกี้ต่อไปในอนาคตได้แบบรุ่นสู่รุ่น
เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมาอย่างยาวนาน ทำให้ฐานลูกค้าหลักของเรือนเพชรสุกี้คือกลุ่ม Generation Baby Boomer ไปจนถึง Gen X ด้วยสไตล์ร้านอาหารและภาพลักษณ์แบรนด์ ที่อาจจะยังไม่สามารถเจาะไปถึงตลาดกลุ่มลูกค้า Gen Y ได้ คุณพงศ์ธรรศ เลิศธนพันธุ์ ผู้บริหารเรือนเพชรสุกี้ รุ่นที่ 3 จึงต้องการขยายไปยังกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ เพื่อเปิดตลาดใหม่ๆ ให้กับเรือนเพชรสุกี้ สามารถส่งต่อการรับรู้แบรนด์เรือนเพชรสุกี้ต่อไปในอนาคตได้แบบรุ่นสู่รุ่น
นอกจากนี้ ในปัจจุบันนี้ที่คนนิยมทานอาหารแบบหม้อต้มชาบู ส่งผลให้ร้านสุกี้ชาบูเกิดขึ้นมาใหม่เป็นจำนวนมาก ทำให้การแข่งขันของธุรกิจนี้สูงขึ้น เรือนเพชรสุกี้เองก็เล็งเห็นปัญหานี้จึงจำเป็นต้องปรับตัว และหากลยุทธ์ที่จะทำให้ร้านสามารถแข่งขันได้ในตลาดนี้
สิ่งที่ เรือนเพชรสุกี้ ร่วมมือกับ Hungry Hub
หนึ่งในแนวทางการปรับตัวเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ของเรือนเพชรสุกี้ คือการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับแพลตฟอร์มจองร้านอาหาร เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าที่มีอยู่แล้วของแพลตฟอร์ม โดยร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Hungry Hub แอปจองร้านอาหารที่มีฐานลูกค้าหลากหลายช่วงอายุ รวมถึง Gen Y ทำให้ตอบโจทย์เรือนเพชรสุกี้ ที่ต้องการกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย
โดยทำโปรโมชันบุฟเฟ่ต์ A la carte ซึ่งจากเดิมเรือนเพชรสุกี้เป็นร้านที่เสิร์ฟแบบ A la carte อยู่แล้ว เมื่อทำโปรโมชันบุฟเฟ่ต์เสริมขึ้นมาเป็นตัวเลือก ทำให้ลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และยังตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการทานบุฟเฟ่ต์อีกด้วย

“พอเราได้ทำโปรโมชั่นกับ Hungry Hub ไป เราได้เห็นข้อดีหลายๆ อย่างที่เราสัมผัสได้ด้วยตัวเอง อย่างเช่นเราได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น กลุ่มลูกค้าที่ไม่เคยทานเรือนเพชรสุกี้มาก่อนเลย เหมือนกับว่า Hungry Hub เป็นจุดเชื่อมระหว่างเรือนเพชรสุกี้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น ทำให้เราได้รู้จักลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ แล้วมีโอกาสที่จะนำเสนอโปรโมชั่นให้กับลูกค้าเป้นกลุ่มที่กว้างมากขึ้นเพราะ Hungruy Hub ก็สนับสนุนเราในเรื่อง Food Blogger Marketing Tools ต่างๆ ทำให้ได้รับการรู้จักมากขึ้น”
“อีกประเด็นหนึ่งที่เรามาร่วมกับ Hungry Hub แล้วเรารู้สึกว่าได้รับความรู้มากขึ้น และสามารถนำไปใช้ได้จริงคือเรื่องของ Food Costs คืออย่างที่บอกเรือนเพชรสุกี้เราไม่ได้เป็นร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ ซึ่งร้านอาหารแต่ละประเภทจะมีการจัดการ มีการคำนวน Food Cost ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ทางร้านเมื่อขายบุฟเฟ่ต์แล้วยังสามารถควบคุมให้ได้กำไรอยู่”
คุณพงศ์ธรรศ เลิศธนพันธุ์ ผู้บริหารเรือนเพชรสุกี้ รุ่นที่ 3
หากร้านอาหารใหม่ สนใจอยากเข้าร่วม กับ Hungry Hub เพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : คลิก
หากร้านอาหาร มีคำถาม หรือต้องการความช่วยเหลือจากทีม Hungry Hub สามารถติดต่อได้ที่ Line: @hhforbusiness
เสียงตอบรับจาก Partner ร้านอาหาร ที่ร่วมกับ Hungry Hub
- ทำ All Day Dining ในโรงแรม ให้มีแขก Walk-in ได้ด้วย Hungry Hub
- รสดีเด็ด x Hungry Hub ผลักดันเนื้อไทย ติดตลาดคนไทย ไม่แพ้เนื้อนอก
- เปิดสูตรความสำเร็จ Vertigo Rooftop รูฟท็อปหรูระดับ Top ของเมืองไทยที่อยู่รอดในทุกสถานการณ์
- ได้เริ่มทำ Delivery กับ Hungry Hub แม้จะเจอล็อกดาวน์ แต่ยอดขายกลับเพิ่มขึ้น
- ในช่วงโควิด-19ระบาด ทางโรงแรมรู้สึกโชคดีมากที่มีโอกาสร่วมงานกับ Hungry Hub