ปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปภาพหน้าตาของอาหารมีผลต่อการตัดสินใจซื้ออย่างมาก ยิ่งจานไหนมีสีสันสดใสสวยงาม น่ากิน ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจสั่งได้ง่าย โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ธุรกิจ Food Delivery เติบโต รูปอาหาร เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าจึงตัดสินใจซื้อเมื่อผู้คนให้ความสนใจกับรูปอาหาร จึงทำให้เกิดอาชีพมาแรงอย่าง Food Stylist ขึ้นมาในวงการร้านอาหาร หลายคนคงสงสัยว่าจริง ๆ แล้วอาชีพนี้ มีหน้าที่อะไร สำคัญยังไงต่อวงการอาหาร วันนี้ Hungry Hub มีคำตอบ พร้อมเสนอทริคการจัดอาหารที่นำไปปรับใช้ได้จริง!
Food Stylist คืออะไร มีหน้าที่อะไรในวงการธุรกิจอาหาร
Food Stylist (ฟู้ดสไตลิสต์) คือ ผู้ที่มีหน้าที่เป็นนักออกแบบและตกแต่งอาหารโดยใช้ทักษะความรู้ด้านศิลปะ ด้านอาหาร และความคิดสร้างสรรค์ เปรียบเสมือนศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนจานอาหาร อาศัยเรื่องของรสนิยม ดึงจุดเด่นและความแตกต่างเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับอาหารนั้น ๆ เปรียบเสมือนคู่หูของช่างภาพ เพื่อให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพและวิดิโออาหารออกมาได้น่าทานมากที่สุด อาชีพฟู้ดสไตลิสต์ไม่จำเป็นต้องทำอาหารเป็น เพียงแค่รู้จักวัตถุดิบ รสชาติ และมีความเข้าใจในเรื่องของอาหารก็เพียงพอแล้ว
หลายคนคงมีคำถามในใจว่า แล้วฟู้ดสไตลิสต์มีหน้าที่แตกต่างยังไงกับการที่เชฟรังสรรการจัดจานอาหารของตนเอง สิ่งที่แตกต่างเลยก็คือ ฟู้ดสไตลิสต์นั้นสามารถใช้วัสดุอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้มาประกอบให้อาหารในภาพออกมาสวยงาม ดูสวยน่าทานในสายตาผู้บริโภคมากที่สุด นั่นรวมไปถึงการใช้ Fake Product เพื่อให้ภาพสื่อจุดเด่นความอร่อยของเมนูนั้น ๆ อย่างการใช้น้ำมันเครื่องมาราดแทนน้ำผึ้งจริง ๆ การใช้กาวหรือแชมพูแทนนม หรือการสเปร์ระงับกลิ่นกายพ่นเคลือบผิวผลไม้ ให้ผลไม้ดูฉ่ำน่าทาน
4 วิธีจัดอาหารให้ดูน่ารับประทานแบบ Food Stylist
เมื่อรู้แล้วว่าฟู้ดสไตลิสต์ คืออะไร ต่อมา Hungry Hub จะพามารู้จักหลักการจัดอาหารให้ดูน่ารับประทานแบบง่าย ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อให้อาหารดูน่าทานมากขึ้น
1. วาดโครงร่าง สร้างสมดุลบนจาน
สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการวาดโครงร่างให้เห็นภาพรวมของจานอาหาร เหมือนกับการเสก็ตภาพ เป็นการดีไซน์ว่าจะโชว์อะไรในจาน โดยการเลือกสรรวัตถุดิบที่ต้องการใช้มาจัดวางลงไปในจานให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม ที่สำคัญคือต้องเน้นวัตถุดิบหลักให้โดดเด่น และใช้พื้นที่ว่างรอบ ๆ ข้างให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เช่น ตกแต่งด้วยซอส เพิ่มความน่าสนใจให้เมนูอาหาร เป็นต้น
2. เลือกใช้สีและภาชนะ
อาหารจะดูน่ากิน ไม่ใช่แค่การจัดวาง แต่เริ่มตั้งแต่การเลือกภาชนะที่ใส่ การเลือกใช้สีที่สมดุลและเหมาะสม รูปทรงและพื้นผิวภาชนะ รูปทรงแปลกใหม่ จะช่วยทำให้อาหารดูน่ากินและเพิ่มความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่าง เสต็กเนื้อสีน้ำตาลแดง เมื่อใช้ภาชนะสีเข้ม รูปทรงยาว จะทำให้สามารถเรียงเนื้อแนวยาวได้ และทำให้เนื้อดูโดดเด่นมากกว่าการใช้ภาชนะสีขาว
3. สัดส่วน ปริมาณส่วนผสมที่ถูกต้อง
ในการดีไซน์การจัดจานที่ดี นอกจากคำนึงถึงความสวยงามแล้ว ควรคำนึงถึงวัตถุดิบหลักด้วย เพื่อให้การถ่ายภาพเมนูออกมาเห็นวัตถุดิบหลักที่มี Value ได้ชัดเจน เช่น มาม่าต้มยำซีฟู้ด ใช้เส้นรองและวางซีฟู้ดไว้บนสุด เพื่อให้วัตถุดิบซีฟู้ดมีความโดดเด่น หรือ พาสต้า ม้วนเป็นฐานและใช้เนื้อวางไว้ด้านบน จะทำให้สามารถโชว์วัตถุดิบหลักให้ลูกค้าเห็นได้อย่างชัดเจน
4. จัดวางแบบคลาสสิก
แนวทางในการจัดจานแบบคลาสสิคเปรียบเสมือนการจัดจานอาหารเป็นหน้าปัดนาฬิกา จะใช้อาหารพื้นฐาน 3 อย่างก็คือ แป้ง ผัก และอาหารหลัก เป็นสีสันที่ดูตัดกันดี ควรวางแยกส่วนให้เป็นระเบียบ และคำนึงสัดส่วนให้พอดี วัตถุดิบประเภทเนื้อควรมีมากที่สุดเพราะเป็นวัตถุดิบที่มีมูลค่าสูงสุด จะช่วยดึงดูดสายตาได้ดี
เคล็ดลับ Food Stylist มืออาชีพ
การถ่ายภาพโฆษณา หรือถ่ายภาพอาหารสำหรับโปรโมท ต้องเน้นให้เห็นถึงความน่ารับประทาน และวัตถุดิบหลัก ซึ่งการจัดจานอาหารเพื่อการถ่ายภาพ จะมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้สามารถถ่ายออกมาได้น่ารับประทาน ดังนี้
- สเต็กเนื้อ ต้องมีเดียมแร์ – ในการถ่ายภาพเนื้อให้ดูน่ารับประทาน ต้องเน้นให้เห็นถึงความชุ่มฉ่ำและความแดงของเนื้อ ดังนั้นไม่ควรย่างสเต็กเนื้อให้สุกเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อดูแห้งและแข็ง
- ใช้น้ำมันทาผิววัตถุดิบ – เช่น ทาเนื้อสเต็ก ทาเส้นพาสต้า แป้งเบอร์เกอร์ เนื้อปลา จะช่วยทำให้ถ่ายออกมาแล้ว อาหารดูฉ่ำวาว ไม่แห้งจนเกินไป
- ราดซอสแต่พอดี – แม้ว่าในเมนูจะมีซอสสุดชุ่มฉ่ำ แต่ในการถ่ายภาพโปรโมทควรคำนึงถึงวัตถุดิบหลักเป็นหลัก การใช้ซอสควรต้องระมัดระวังไม่ให้ซอสกลบวัตถุดิบหลักจนมองไม่เห็น
- ใช้อุปกรณ์ตกแต่งฉาก – การถ่ายรูปอาหารแบบรวมทุกเมนู ไม่ควรให้จานทุกจานอยู่ในระดับเดียวกัน หรือวางจานเรียงต่อกันเป็นแนวเดียวกัน เพราะจะทำให้ดูไม่น่าสนใจและไม่มีจุดโฟกัส ควรใช้อุปกรณ์ตกแต่งมาช่วยทำให้โต๊ะอาหารดูมีมิติมากขึ้น เช่น ผ้าสีสันสดใส แท่นวาง แก้วน้ำ เป็นต้น
ดูเทคนิคการจัดจานเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3P2c5Sv
ทั้งหมดนี้ก็คือหน้าที่ของอาชีพฟู้ดสไตล์ลิสต์ รวมทั้งแนวทางในการจัดอาหารง่าย ๆ ที่ร้านอาหารสามารถนำไปปรับใช้กับการจัดอาหารจาก Hungry Hub แพลตฟอร์มจองร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำ
หากร้านอาหารมีคำถาม หรือต้องการความช่วยเหลือจากทีม Hungry Hub สามารถติดต่อได้ที่ @hhforbusiness
หากร้านอาหารใหม่ สนใจอยากเข้าร่วม กับ Hungry Hub เพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : คลิก
อ่านบทความสำหรับผู้ประกอบการ ธุรกิจร้านอาหาร เพิ่มเติม
- SOP คืออะไร สำคัญอย่างไรกับร้านอาหาร
- ทำความรู้จักกับ มิชลินสตาร์ รางวัลการันตีคุณภาพร้านอาหาร
- 4 เทคนิค แพคเกจจิ้งใส่อาหาร สร้างความจดจำ ลูกค้าประทับใจ
- Carne – การ์เน่ ร้านคูซีนแปลกใหม่ ทำอย่างไรให้ลูกค้ากล้าลอง | Hungry Hub x Top Merchant
- รู้จัก CRM ร้านอาหาร การตลาดสร้าง Customer Loyalty หรือ ลูกค้าประจำ