ในการทำธุรกิจร้านอาหาร เป็นที่รู้กันดีว่า ต้องขายให้ได้กำไร มากกว่าต้นทุนที่จ่ายไป เพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ หลาย ๆ ร้านอาหาร คำนวณต้นทุนคงที่ ต้นทุนแปรผัน รู้ Food Cost ตั้งราคาขายอย่างเหมาะสม ขายได้ตลอด แต่กำไรที่ได้ก็ยังน้อยอยู่ดี วันนี้ Hungry Hub มีเทคนิคเพิ่มยอดขายให้ร้านอาหาร ด้วยเมนูเครื่องดื่ม ‘ม็อกเทล’ เครื่องดื่ม Non-alcohol ที่ช่วยเพิ่ม Value ให้ร้านของคุณ
ม็อกเทล (Mocktail) คืออะไร
ม็อกเทล (Mocktail) คือ เครื่องดื่มที่มีความคล้ายกับ ค็อกเทล (Cocktail) มีส่วนผสมของน้ำผลไม้ น้ำเชื่อม น้ำหวานเข้มข้น โดยม็อกเทล แตกต่างจากค็อกเทล ตรงที่เครื่องดื่มม็อกเทลจะไม่มีแอลกอฮอล์เลย เป็น เครื่องดื่ม Non-alcohol นั่นเอง
ม็อกเทลแตกต่างจากน้ำผลไม้ทั่ว ๆ ไป ตรงวิธีทำและการพรีเซนท์ โดยวิธีการทำจะมีความเหมือนกับค็อกเทล คือมีการใช้เชคเกอร์ เพื่อเชคส่วนผสมให้เข้ากัน และหน้าตาของแก้ว ก็มีความสวยงาม แฟนซี เหมือนเครื่องดื่มค็อกเทล เช่น มีการปาดเกลือที่ขอบแก้ว แต่งกลิ่นด้วยใบสะระแหน่ เพิ่มรสชาติปลายลิ้นด้วยเปลือกส้ม เป็นต้น
ม็อกเทล ช่องทางในการทำการตลาด
ปัจจุบันมีกฎหมายห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มม็อกเทล จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการทำโฆษณาให้ร้านอาหาร เพราะม็อกเทลมีหน้าตาเหมือนเครื่องดื่มค็อกเทล แต่ไม่มีแอลกอฮอล์จึงสามารถโฆษณาได้ ช่วยสร้างสีสันให้กับร้าน เพิ่ม Value ให้ ร้านอาหาร ได้ดีกว่าน้ำอัดลม ทำให้ผู้บริโภครู้สึกมีทางเลือก ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้
“ฐานผู้บริโภคเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ ขยายกว้างครอบคลุมตั้งแต่วัยเริ่มทำงาน อายุ 21 ไปจนถึง อายุ 44 ปี และเซกเมนต์นี้มีแนวโน้มเติบโตปีละ 7.1% ในช่วง 2561-2565”
เครื่องดื่มม็อกเทล เพิ่ม Value ให้ร้านอาหาร
ม็อกเทลเป็นเครื่องดื่มที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้ดี ไม่แพ้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะม็อกเทลมีรูปลักษณ์คล้ายกับค็อกเทล ทำให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ไม่ต้องการดื่มแอลกอฮอล์ แต่อยากรู้สึกกลมกลืนกับบรรยากาศได้ อีกทั้งคอนเซปต์ของม็อกเทลที่มีความพิเศษมากกว่าน้ำผลไม้ทั่ว ๆ ไป มีหลายรสชาติ ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า หากมีแพ็กเกจที่ต้องจ่ายเพิ่มเพื่อรับม็อกเทล ลูกค้าก็ยินดีที่จะจ่าย
“ม็อกเทล ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับบรรยากาศ ได้มากกว่าน้ำอัดลม และยังมีสัดส่วนกำไรที่สูงกว่าอีกด้วย”
ม็อกเทลสามารถเพิ่ม Value เพิ่มยอดขายให้กับ ร้านอาหาร ได้อย่างไร ลองเปรียบเทียบแบบเห็นภาพง่าย ๆ เช่น แพ็กเกจ A – Party Pack 3 Dishes ราคา 690 บาท กับ แพ็กเกจ B – Party Pack 3 Dishes w/ Free Flow Mocktail (90mins) ราคา 890 บาท เมื่อลูกค้าเห็นเมนู+ราคาของม็อกเทลที่ร้านขายในราคาปกติ 200-300 บาท/แก้ว จะทำให้ตัดสินใจเลือกแพ็กเกจ B เพราะดูคุ้มค่ามาก เพิ่มเงินเพียง 200 บาท แต่ดื่มได้ไม่อั้น ลูกค้ามองว่าดื่ม 2 แก้วก็คุ้มแล้ว ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายเพิ่มขึ้น จากที่ขายได้แค่อาหาร เรายังสามารถขายเครื่องดื่มได้อีกด้วย เป็นการเพิ่ม Margin ให้สูงขึ้นได้
ส่องต้นทุน เครื่องดื่มม็อกเทล ทำไมถึงเพิ่มกำไรให้ ร้านอาหาร
ม็อกเทล เป็นเครื่องดื่มที่มีต้นทุนต่ำ แม้ว่าส่วนผสมจะมีหลายอย่าง ทั้งผลไม้ น้ำเชื่อม น้ำหวาน แต่ด้วยหน้าตาที่สวยงามดูมี Value ทำให้สามารถตั้งราคาสูงกว่าน้ำผลไม้ทั่ว ๆ ไปได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ บรรยากาศด้วย จึงทำให้มีสัดส่วนกำไรสูงกว่าน้ำผลไม้ทั่ว ๆ ไป โดยต้นทุนม็อกเทล 1 แก้ว อยู่ที่ไม่ 20% – 30% ของราคาขายเท่านั้น หาก ร้านอาหาร มีเครื่องดื่มม็อกเทล จะช่วยเพิ่มกำไรให้กับร้านได้เป็นอย่างดี
ม็อกเทล ตอบโจทย์ลูกค้าสายโซเชียล
เครื่องดื่มม็อกเทล ไม่เพียงแต่เพิ่มกำไรให้ร้านได้ แต่ยังช่วยสร้าง Brand Awareness ให้ร้านได้อีกด้วย เพราะม็อกเทล เป็น เครื่องดื่ม ที่มีหน้าตาสวยงาม ทั้งสีสัน การตกแต่งแก้ว และรูปทรงแก้ว มีความคล้ายกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดึงดูดลูกค้าที่ชอบถ่ายรูป ให้ถ่ายลงโซเชียลได้เป็นอย่างดี
หากร้านอาหาร มีคำถาม หรือต้องการความช่วยเหลือจากทีม Hungry Hub สามารถติดต่อได้ที่ Line: @hhrestaurant
หรือ หากร้านอาหารใหม่ สนใจอยากเข้าร่วม กับ Hungry Hub เพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> คลิก
อ่านบทความสำหรับผู้ประกอบการ ธุรกิจร้านอาหาร เพิ่มเติม
8 ไอเดียเปลี่ยน Food Waste สร้าง ขยะอาหาร ให้เป็นรายได้
5 วิธีทำการตลาดสำหรับ ธุรกิจร้านอาหาร ฉบับง่ายและได้ผลจริง
รีวิวร้านอาหาร กลยุทธ์ปั้นแบรนด์ จากร้านโนเนม สู่ร้านที่ไกลแค่ไหนก็ตามไปกิน!