Hungry Hub ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณมานพ โล่ห์บัณฑิตกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด โรงแรม บันยันทรี กรุงเทพ ถึงแนวทางการทำโปรโมชันเข้าถึงลูกค้าคนไทย อะไรที่ทำให้โรงแรมสามารถดำเนินกิจการอยู่ได้ ในวันที่ลูกค้าต่างชาติไม่สามารถเดินทางข้ามประเทศได้
เป็นที่รู้กันดีว่า การปิดประเทศ การล็อกดาวน์ ผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่สะเทือนไปทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรม จนหลายๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมจำเป็นต้องปิดตัวไปจำนวนมาก แต่โรงแรม บันยันทรี กรุงเทพ กลับไม่เคยปิด และยังฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว มาดูกันว่า โรงแรมบันยันทรี ทำอย่างไรจึงสามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤติได้อย่างสวยงาม
ภาพรวมสถานการณ์ของ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ในช่วงวิกฤติ
คุณมานพ เล่าถึงสถานการณ์ของโรงแรมในช่วงที่โควิด-19 ว่า ย้อนกลับไปก่อนโควิด บันยันทรี กรุงเทพ มีการบริการห้องพัก อยู่ที่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ จากทั้งหมด 327 ห้อง หมายความว่ามีการรับรองลูกค้าอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จนกระทั่งมาถึงช่วงที่เกิดการระบาดของ โควิด-19 นับว่าเป็นเรื่องใหม่ของวงการธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวทั้งหมด สถานการณ์ที่แย่ที่สุด คือ อัตราการเข้าพักเคยหล่นไปถึงเลขหลักเดียว ซึ่งเดิมทีกลุ่มลูกค้าของโรงแรมจะเป็นกลุ่มต่างชาติ เมื่อเกิดการปิดประเทศจำนวนผู้เข้าพักจึงหายไปอย่างน่าใจหาย และส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อธุรกิจโรงแรมในขณะนั้น
บันยันทรี กับการปรับตัว ให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้
แม้จะเกิดวิกฤตผู้เข้าพักลดลงจนเหลือเลขหลักเดียว แต่โรงแรมบันยันทรี กลับไม่เคยปิดโรงแรม ยังดำเนินกิจการต่อแม้ไม่มีแขกต่างชาติ โดยเลือกที่จะแก้ปัญหานี้ โดยศึกษาหาข้อมูลว่า จะทําอย่างไรให้เกิดกลุ่มธุรกิจลักษณะใหม่ที่ตรงกับลูกค้าคนไทย เนื่องจากสถานการณ์ปิดประเทศ ทำให้แน่นอนว่าลูกค้าจะต้องเป็นคนไทย หากจะอยู่รอดได้จะต้องหันมาโฟกัสลูกค้ากลุ่มคนไทยให้มาใช้บริการให้ได้ โดยเกิดเป็นธุรกิจรูปแบบที่น่าจะตรงใจคนไทย นั่นคือ Staycation
“เริ่มต้นโดยการใช้ตัว ดาดฟ้า (Rooftop) ก่อน ซึ่งเป็นจุดเด่นของโรงแรม เป็นเอกลักษณ์ของเรา ที่ใครๆ ก็อยากจะขึ้นมาที่บนดาดฟ้าของโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เราเริ่มเอาตรงนี้มาเสนอให้กับคนไทย โดยการปล่อยใน Social Media ก่อน ให้เขารับรู้ถึงการมีตัวตนของร้านอาหาร Vertigo ในช่วงเริ่มต้น จึงมีการนั่งคุยกันว่า เราจะใช้ Product ตัวไหนก่อนในการที่จะเป็น Highlight แล้วเราควรจะเลือกแค่หนึ่งหรือสองอย่างเท่านั้น เพื่อจะให้มันเกิดความหนักแน่นของตัวข้อเสนอที่เราอยากจะเอาไปรวมกับห้องพัก”
การทำ Staycation ในแบบฉบับของ โรงแรม บันยันทรี
แนวคิดการทำ Staycation ในมุมมองของโรงแรมบันยันทรี คุณมานพ กล่าวว่า Staycation ที่ควรจะเป็น ควรจะเป็น Staycation ที่แปลกใหม่ และมีความพิเศษ ความพิเศษคือการที่แต่ละโรงแรมเอาลักษณะเด่นของตัวเองเข้ามารวมกัน อย่างเช่น Banyan Tree Bangkok เป็นโรงแรมที่มีห้องอาหารที่หลากหลาย มีการบริการที่โดดเด่น เช่น ห้องอาหารไบหยุ่น ห้องอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง (Cantonese Cuisine) ที่เปิดบริการมาอย่างยาวนานและมีชื่อเสียงที่ดีมาโดยตลอด Vertigo รูฟท็อปชื่อดัง ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพ รวมไปถึงบริการสปา ที่โรงแรมให้ความสําคัญมาตั้งแต่วันแรกที่เปิดแบรนด์สปาบันยันทรี นำสิ่งเหล่านี้มารวมเข้าด้วยกันในแพ็กเกจ Staycation หรือเลือกที่จะให้ F&B Credit เพื่อให้อิสระลูกค้าในการใช้จ่ายในโรงแรม
“การทํา Staycation คือ สร้างภาพให้กลุ่มลูกค้าเห็นว่าเขาไม่จําเป็นจะต้องขับรถไปไกลไกลหรือว่าไปพักผ่อนในต่างจังหวัด ให้รู้สึกว่าแค่ขับรถมาที่กรุงเทพ ก็สามารถมีช่วงเวลาในการพักผ่อนเหมือนกับที่ขับรถไปต่างจังหวัด นั่นคือจุดประสงค์ที่เราพยามจะทําให้การพักผ่อนที่โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เนี้ยมีความประทับใจลักษณะแบบนั้น”
มองหาโอกาสใหม่ๆ ต่อยอดความสำเร็จ
เมื่อถามถึงผลลัพธ์จากการทำโปรโมชัน Staycation คุณมานพเล่าว่า “ผลตอบรับจากการทำ Staycation ดีกว่าที่คาดไว้มาก เรามีโอกาสได้ต้อนรับลูกค้าคนไทยมากจริงๆ จากที่เราตั้งความหวังไว้ระดับหนึ่ง สุดท้ายแล้วเราได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทย ก็ต้องขอขอบคุณนะครับที่ให้ความสําคัญกับเรา ทําให้โรงแรม บันยันทนรี กรุงเทพ สามารถบอกได้แล้วว่า เราได้ผ่านช่วงที่วิกฤตที่สุดไปแล้ว”
นอกจากจะมีปรับโปรโมชันต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าคนไทยมากขึ้นแล้ว โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ยังมองหากลุ่ม Partner ใหม่ๆ เนื่องจากคาดไว้ว่าจะต้องอยู่ในจุดวิกฤตินี้นานกว่าที่คาด “เรารู้ว่าเราจะต้องอยู่กับในตรงจุดนี้นานกว่าที่คาด ซึ่งตรงนี้เราจะต้องเป็นคนที่หาโอกาสเอาตัวเองไปทํางานกับ Partner เหล่านั้นไม่ว่าจะเป็น Chamber of Commerce หรือจะเป็นเรื่องของ Platform อื่นๆ ที่มีฐานลูกค้าของเขา และตัวโรงแรมบันยันทรี อยากจะได้กลุ่มฐานลูกค้าของเขามาใช้บริการของโรงแรมเรา”
บันยันทรี กรุงเทพ จับมือ Hungry Hub แพลตฟอร์มจองร้านอาหาร โรงแรมชั้นนำ
Banyan Tree Bangkok ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Hungry Hub แพลตฟอร์ม หรือแอปจองร้านอาหารและโรงแรม ที่มีฐานลูกค้าคนไทยที่มีกำลังซื้อสูง และมองหาดีลสำหรับโอกาสพิเศษ นำเสนอแพ็กเกจ Staycation ที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดโปรโมชัน และจองออนไลน์ได้เลย ในราคาสุทธิ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอปแฝง ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยได้เป็นอย่างดี
“ในการทํางานร่วมกับทาง Hungry Hub เป็นการทํางานที่ที่ดีมากมากในช่วงที่เราผ่านอะไรเลวร้ายมาด้วยกัน การทํางานร่วมกับ Hungry Hub ทําให้เกิดการรับรู้แบบใหม่ๆ แล้วก็การทําให้เกิดฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ กลุ่มของฐานลูกค้า Hungry Hub เนี่ยคือกลุ่มที่หาสถานที่ที่จะมาทานอาหาร ทางโรงแรมเองก็ทําร้านอาหารของเราให้เหมาะสมกับฐานลูกค้าของกลุ่มที่ Hungry Hub มี”
“การทํางานกับ Hungry Hub ผมมองว่ามันเป็นหนึ่งในส่วนของการสร้าง Demand ร่วมกันนะครับ นั่นก็เลยเกิด Package ของ Staycation ที่เป็นตัวใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใครนะครับ ที่ในโรงแรมในกรุงเทพไม่มีใครหาได้ ต้องมาหาที่บันยันทรี โดยการทํางานกับทาง Hungry Hub เท่านั้น”
- ดูโปรโมชัน ได้ที่ : Banyan Tree Bangkok Staycation
- ฟังบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม ได้ที่ : ห้องเต็มทุกวัน ด้วย Staycation แบบ Banyan Tree
ติดตามสาระดีๆ เกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารได้ในบทความต่อไป ?
สนใจร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Hungry Hub เพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : สำหรับโรงแรม / สำหรับร้านอาหาร
หากร้านอาหารมีคำถาม หรือต้องการความช่วยเหลือจากทีม Hungry Hub สามารถติดต่อได้ที่ @hhforbusiness
อ่านบทความสำหรับผู้ประกอบการ ธุรกิจร้านอาหาร เพิ่มเติม
- ถอดบทเรียน แหลมเจริญ ซีฟู้ด ร้านเล็กๆ จากระยอง สู่ร้านดังขึ้นห้างกว่า 33 สาขา
- ไขความลับ Koko Japanese Omakase ร้านโอมากาเสะสุดหรู ทำอย่างไร ให้มียอดจองสูง!
- เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 มาแล้ว ผู้ประกอบการ รายเดิม รายใหม่ ต้องทำอะไร? อัปเดตล่าสุด!
- เอาใจคนตื่นสาย ทำความรู้จัก Brunch มื้ออาหารมาแรงของคนยุคใหม่ พร้อมรวม เมนู Brunch ยอดฮิต
- 6 เทคนิคปรับ ฮวงจุ้ย ร้านอาหาร จัดร้านแบบนี้มีแต่ปัง