การลดราคา เป็นวิธีการดึงดูดลูกค้าที่ได้ผลดี ทำให้ร้านอาหารได้ยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาโปรโมชัน แต่การลดราคาเพียงอย่างเดียวไม่ใช่วิธีการเพิ่มรายได้ที่ยั่งยืนให้กับร้านอาหาร หนึ่งในวิธีที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้แบบ Up-selling คือ การทำแพ็กเกจให้ดูมีมูลค่า ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายเพิ่มขึ้นด้วยความเต็มใจ วันนี้ Hungry Hub ได้รวมวิธี เพิ่มมูลค่าแพ็กเกจ ให้ดูน่าสนใจและขายง่ายขึ้น เพื่อให้ร้านอาหารมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น
![](https://business.hungryhub.com/wp-content/uploads/2022/04/4-วิธีเพิ่มมูลค่าแพ็กเกจ-1024x1024.png)
4 วิธี เพิ่มมูลค่าแพ็กเกจ ร้านอาหาร ให้ดูน่าสนใจและขายง่ายขึ้น
1. เพิ่มเมนูพรีเมียม
การทำเมนูพรีเมียม คือ การนำเมนูที่มีมูลค่า/เมนูที่ใช้วัตถุดิบราคาสูงกว่าเมนูปกติ เช่น ล็อบเสตอร์อบเนย สเต็กฟัวกราส์ เนื้อวากิวเกรด A5 หอยนางรมเซ็ตใหญ่ ปลาเป็นต้น หรือ เมนูที่เป็นที่นิยมในขณะนั้น เช่น แซลมอนดอง กุ้งแม่น้ำเผา เป็นต้น มาเป็นเมนูพรีเมียมที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ คนละ 1 เมนู หรือใช้สิทธิ์ 2 คนเลือกเมนูพรีเมียม ตามแต่เงื่อนไขที่ตั้งไว้
เมนูพรีเมียมนี้เป็นเมนูที่ลูกค้าจะได้รับนอกเหนือจากเมนูปกติ ทำให้เมื่อคำนวณดูแล้ว ลูกค้ารู้สึกว่าเกิดความคุ้มค่า ยอมจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะได้สิทธิ์ในการเลือกเมนูพรีเมียม ในส่วนของร้านอาหาร แม้ว่าจะต้องเพิ่ม Cost ในเมนูพรีเมียม แต่ความเป็นจริงแล้วการที่ลูกค้าได้รับเมนูพรีเมียมที่เสิร์ฟแบบไซส์ปกติ ยิ่งไปหลายคนยิ่งได้หลายจาน เมนูพรีเมียมเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าอิ่มเร็ว ทานเมนูในรายการปกติได้น้อยลง ทำให้ร้านอาหารยังคงได้กำไรต่อหัวอยู่
2. ทำ Bundle / Collab
การทำ Bundle คือการรวมสินค้า/บริการ หลายๆ อย่างเข้าด้วยกันในแพ็กเกจเดียว เช่น ธุรกิจโรงแรม จัดโปรโมชัน Bundle รวมห้องพัก ห้องอาหาร และสปา สำหรับ 2 ท่าน ในราคาพิเศษ เป็นต้น เปลี่ยนแนวคิดของการจองโรงแรมเพื่อนอน เป็นการจองโรงแรมเพื่อรับประสบการณ์ที่ดี ซึ่งในมุมมองลูกค้ามองว่า การจ่ายเพิ่มแค่จำนวนหนึ่ง แต่ได้ความพิเศษมากขึ้น ไม่ใช่แค่การนอนโรงแรมทั่วไป แต่ยังได้ Experience และ Service ที่ดี ทำให้ลูกค้าตัดสินใจจองได้ง่ายขึ้น ทำให้โรงแรมมีโอกาสขายได้ทั้งห้องพักและห้องอาหาร
การ เพิ่มมูลค่าแพ็กเกจ นอกจากการ Bundle สิ่งที่มีอยู่แล้ว ยังสามารถ Bundle หรือ Collab ร่วมกับร้านอาหารหรือโรงแรมอื่นๆ ได้อีกด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสขาย ได้ฐานลูกค้าจากทั้งฝั่งโรงแรมและร้านอาหาร
![](https://business.hungryhub.com/wp-content/uploads/2022/04/ภาพหน้าจอ-2565-04-04-เวลา-18.19.21-1024x562.png)
กรณีตัวอย่าง Copper x Banyan Tree x Hungry Hub Package
Hungry Hub ร่วมกับ Copper Buffet และโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ จัดแพ็กเกจ Eat / Sleep / Retreat จ่ายเพียง 4,661฿ ได้ทาน Copper Buffet 2 ท่าน พร้อมกับรับสิทธิ์เข้าพักที่โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ 1 คืน และรับเครื่องดื่มสุดชิลบน Vertigo รูฟท็อประดับท็อปของกรุงเทพฯ เป็นการร่วมมือระหว่างร้านอาหารและโรงแรมที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ Hungry Hub ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่จะจ่าย ร้านอาหารได้รายได้เพิ่มขึ้น โรงแรมมีโอกาสขายห้องพักได้มากขึ้นแทนที่จะปล่อยให้ห้องว่าง
3. เครื่องดื่ม Mocktail เพิ่ม Value
Mocktail (ม็อกเทล) เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่ม Value ให้กับแพ็กเกจได้เป็นอย่างดี เพราะม็อกเทล เป็นเครื่องดื่มที่มีวิธีการมิกซ์และการเสิร์ฟเหมือนค็อกเทล ทำให้ดูมีมูลค่ามากกว่าน้ำอัดลมทั่วไป และที่สำคัญ ม็อกเทล เป็นเครื่องดื่มมีต้นทุนต่ำ แต่ขายได้ในราคาสูงกว่าเครื่องดื่มปกติ โดยทั่วไปต้นทุนม็อกเทล 1 แก้ว จะไม่ถึง 20% – 30% ของราคาขายเท่านั้น การทำแพ็กเกจแบบมีเครื่องดื่ม Flee-flow เช่น จ่ายเพิ่ม 300 บาท ได้ทานอาหารเมนูปกติ พร้อมรับเครื่องดื่มม็อกเทลไม่อั้น 90 นาทีเต็ม ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาม็อกเทล ที่ปกติขาย 200-300 บาท/แก้ว
ข้อดีของการทำแพ็กเกจแบบมี Free flow Mocktail นอกจากจะเป็นเมนูต้นทุนต่ำที่ช่วยเพิ่ม Value ให้แพ็กเกจได้แล้ว ยังช่วยทำให้ลูกค้าอิ่มเร็ว ลูกค้าสั่งอาหารได้น้อยลง จึงช่วยลด cost ในส่วนของอาหารได้ หรือสำหรับแพ็กเกจ Party Pack ที่มีจำนวนจานจำกัด 3-4 จาน/ท่าน การมีเครื่องดื่มเข้ามาเสริมจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย นอกจากนี้ ม็อกเทล ยังเป็นเครื่องดื่มที่ถ่ายรูปสวย ตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบการถ่ายรูปลง Social ช่วยให้ร้านได้ Engage เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้ง่ายยิ่งขึ้น
4. สอดแทรกวัตถุดิบพรีเมียม เพื่อให้ได้ชื่อเมนูที่ดึงดูด
การทำเมนูพรีเมียมเพื่อ เพิ่มมูลค่าแพ็กเกจ ไม่เพียงแต่ทำเป็นเมนูใหม่เท่านั้น แต่การเพิ่มวัตถุดิบพรีเมียมนิดๆ หน่อยๆ ในเมนู ก็ช่วยเพิ่ม Value ให้แพ็กเกจได้เช่นกัน เพราะจะช่วยทำให้ชื่อเมนูมีความแพง น่าดึงดูดขึ้น เช่น สปาเก็ตตี้ท็อปอูนิ / ซูชิปลาไหลท็อปฟัวกราส์ แม้ว่าจะมีอูนิและฟัวกราส์ท็อปเพียงเล็กน้อย แต่ก็มีชื่ออูนิและฟัวกราส์อยู่ในชื่อเมนู จึงทำให้เมนูนี้ดูมีมูลค่า สามารถใช้ในการโปรโมทเพื่อดึงดูดลูกค้าให้สนใจได้มากขึ้น
หากร้านอาหาร มีคำถาม หรือต้องการความช่วยเหลือจากทีม Hungry Hub สามารถติดต่อได้ที่ Line: @hhrestaurant
หรือ หากร้านอาหารใหม่ สนใจอยากเข้าร่วม กับ Hungry Hub เพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> คลิก