การตลาดออนไลน์ที่มาแรงในช่วงหลายปีมานี้ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกก็คือ Influencer Marketing เป็นการตลาดที่ใช้ Influencer หรือเรียกได้อีกอย่างก็คือ Blogger โดย Blogger นั้นก็แบ่งออกเป็นหลายสาย ตั้งแต่สายบิวตี้ สายท่องเที่ยว สายไอที และที่จะกล่าวในบทความนี้เลยก็คือ Blogger สายกิน หรือ บล็อกเกอร์ อาหาร วันนี้ Hungry Hub นำเสนอความสำคัญของบล็อกเกอร์ต่อร้านอาหาร เคล็ดลับที่จะทำให้ร้านของท่านเข้าตาบล็อกเกอร์ รวมถึงแนะนำบล็อกเกอร์อาหารที่มาแรงในตอนนี้!
บล็อกเกอร์ อาหาร สำคัญยังไงกับร้านอาหาร
บล็อกเกอร์ อาหาร (Food Blogger) หรือ นักรีวิวอาหารที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ๆ จากการอัพคอนเทนท์ที่น่าสนใจ แสดง ลงบนโลกออนไลน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook Fanpage, Youtube, Website เป็นต้น
ข้อดีของการใช้บล็อกเกอร์ในการโปรโมทร้านอาหารที่เห็นได้ชัดเลยก็คือการเพิ่ม Brand Awareness ให้กับร้านอาหาร ทำให้ร้านอาหารเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากกลุ่มผู้ติดตามของบล็อกเกอร์ ความน่าเชื่อถือและความจริงใจของบล็อกเกอร์ก็ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของร้านอาหารเช่นกัน บล็อกเกอร์ที่มีผู้ติดตามเยอะ รีวิวด้วยความจริงใจ ก็ส่งผลให้ร้านเป็นที่รู้จักในวงกว้างและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านมากขึ้นนั่นเอง
“ข้อมูลจากการสำรวจของ Nielsen พบว่ากว่า 92% ของผู้ทำแบบสำรวจค่อนข้างเชื่อถือแนะนำ หรือการรีวิวจากบุคคลอื่น ๆ บนโลกออนไลน์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักก็ตาม”
บล็อกเกอร์ ได้รายได้จากทางไหน
- Sponsor (สปอนเซอร์)
เมื่อบล็อกเกอร์มียอดผู้ติดตามและยอดไลค์ถึงจำนวนนึง ก็จะมีการติดต่อจากแบรนด์หรือเอเจนซี่ให้ทำคอนเทนต์เพื่อนำเสนอสินค้าของแบรนด์ในสไตล์ของบล็อกเกอร์แต่ละคน ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างบล็อกเกอร์และแบรนด์
- Affiliate (แอฟฟิลิเอท)
การที่เจ้าของสินค้าต้องการให้เจ้าของสื่อพูดถึงสินค้าของเรา เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าที่ติดตามสื่อนั้น ตัดสินใจซื้อ และทุกยอดขายที่ทำได้ Publisher จะได้ค่าคอมมิชชั่นเป็นการตอบแทน ซึ่งแตกต่างจาก Influencer Marketing ที่เป็นการจ้างรีวิว จ่ายก้อนเดียวจบ ไม่มีการติดตามผล
บล็อกเกอร์ที่ร่วมกับทาง Hungry Hub เองก็มีการวัดผลประสิทธิภาพของยอดขายได้อย่างชัดเจนจากการทำ Affiliate Marketing ที่ตรวจสอบได้ว่า มีลูกค้าจองผ่านลิงก์ของบล็อกเกอร์รายนั้นมากแค่ไหน ทำให้ร้านสามารถรู้ผลลัพธ์ที่ได้จากบล็อกเกอร์แต่ละคน
ร้านต้องมีสิ่งเหล่านี้เพื่อดึงดูดบล็อกเกอร์และลูกค้า
ทุกวันนี้มีร้านอาหารเกิดขึ้นใหม่มากมายทุกวัน แล้วจะทำยังไงให้ร้านของเรานั้นแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ให้บล็อกเกอร์และลูกค้ารับรู้ จดจำและเลือกใช้บริการร้านของเรา
- Signature ของดีของร้าน
สิ่งทีร้านอาหารควรจะมีก็คือจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ Singnature Menu ที่มีเฉพาะร้านเราเท่านั้น เพื่อบอกตัวตนและจุดเด่นของร้าน ให้เกิดภาพจำในใจลูกค้า เมื่อลูกค้าได้สัมผัสเอกลักษณ์อันน่าประทับใจทั้งด้านหน้าตาและรสชาติของเมนู ก็เกิดการบอกต่อและการกลับมาใช้บริการซ้ำนั่นเอง เช่น รสดีเด็ด เดอะ สเต็กเฮ้าส์ ที่ความโดดเด่นในเมนูที่ใช้วัตถุดิบหลักเป็นเนื้อวัวไทย
- Storytelling เรื่องราวของร้าน
ในยุคนี้ความสวยงามของร้าน รสชาติอาหารที่อร่อยนั้นไม่เพียงพอต่อการเลือกใช้บริการของผู้บริโภคสมัยนี้ หนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้ร้านอาหารน่าสนใจ ดึงดูดบล็อกเกอร์และลูกค้ามากกว่าเรื่องรสชาติก็คือ การเล่าเรื่องราว (Storytelling) เช่น ร้านยำคุณแม่ ตลิ่งชัน ร้านอาหารอีสานที่มีการตกแต่งสไตล์ตุรกี-โมร็อกโกตั้งแต่พร้อพ ของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ไปจนถึงชุดและเครื่องประดับที่ให้ลูกค้าเช่าถ่ายรูปได้ นอกจากเมนูอาหารอีสานยังมีเมนูขนมและเครื่องดื่มสไตล์ตุรกีอีกด้วย
รวม 10 Influencers บล็อกเกอร์ อาหาร ที่เป็นพันธมิตรกับ Hungry Hub
1.Foodie Munchies ผู้ติดตาม 972,000 คน
2.เชื่อกู กูแดกมาแล้ว ผู้ติดตาม 948,000 คน
3.Food blog Bkk ผู้ติดตาม 612,000 คน
4.Pete Perapat Eatwithpete – กินกับพีท ผู้ติดตาม 466,000 คน
5.พาเธอไป Journey ผู้ติดตาม 363,000 คน
6.Aumjumma วาไรตี้…ชีวิตป้า ผู้ติดตาม 230,000 คน
7.Mhunoiii ผู้ติดตาม 212,000 คน
8.กุ้งจังตะลอนกิน ผู้ติดตาม 183,000 คน
9.เงินจ๋าขอลาก่อน – Good bye Money ผู้ติดตาม 161,000 คน
10.Story of us ผู้ติดตาม 74,000 คน
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ร้านอาหารก็คงจะมองเห็นความสำคัญของการทำการตลาดโดยใช้บล็อกเกอร์กันแล้ว ทาง Hungry Hub เองก็มองเห็นโอกาสในการใช้ บล็อกเกอร์ อาหาร โดยได้ทำการรวบรวมบล็อกเกอร์เข้ามาเป็นพันธมิตร และส่งไปรีวิวร้านอาหารที่เข้าร่วม พร้อมแบ่งค่าคอมมิชชั่น เพื่อช่วยสร้างยอดขาย และสร้าง Brand awareness จากกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้ร้านอาหาร ซึ่งร้านอาหารที่เข้าร่วมกับเราจะไม่เสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการติดต่อบล็อกเกอร์ทั้งสิ้น ร้านอาหารจะเสียเพียงค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าอาหารเท่านั้น
หากร้านอาหารมีคำถาม หรือต้องการความช่วยเหลือจากทีม Hungry Hub สามารถติดต่อได้ที่ @hhforbusiness
หากร้านอาหารใหม่ สนใจอยากเข้าร่วม กับ Hungry Hub เพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : คลิก