การทำโปรโมชันร้านอาหาร เป็นการตลาดที่ช่วยกระตุ้นให้ร้านอาหารมีลูกค้าเพิ่มขึ้น เพิ่มยอดขายได้แบบก้าวกระโดดในช่วงเวลาหนึ่ง หนึ่งในโปรโมชันที่ลูกค้าเฝ้ารอ คงหนีไม่พ้นการให้ส่วนลด แต่ร้านอาหารจะทำโปรโมชันส่วนลดอย่างไร ให้มีกำไร Hungry Hub มีเทคนิคการทำโปรแบบเซฟร้านอาหาร นั่นคือ การทำ ส่วนลด แบบมีขั้นต่ำ
การทำส่วนลดแบบมีขั้นต่ำ คืออะไร
การทำส่วนลดแบบมีขั้นต่ำ คือ การทำโปรโมชันลดราคา โดยกำหนดส่วนลดแบบมีเงื่อนไข ให้มียอดใช้จ่ายขั้นต่ำตามที่กำหนดจึงจะมีสิทธิ์ใช้ส่วนลดได้ เช่น รับส่วนลด 200 บาท เมื่อมียอดใช้จ่าย ขั้นต่ำ 1,000 บาทขึ้นไป หรือ รับส่วนลด 500 บาท เมื่อจองและไปทานขั้นต่ำ 4 ท่านขึ้นไป เป็นต้น การทำส่วนลดแบบมีขั้นต่ำนี้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจอง เพิ่มยอดขายให้ร้านอาหาร โดยที่ร้านอาหารไม่ขาดทุนกับการให้ส่วนลด
ทำไมต้องทำส่วนลดแบบมีเงื่อนไข
การให้ส่วนลดลูกค้า แม้ว่าจะเป็นโปรโมชันที่ดึงดูดให้ลูกค้าสนใจและตัดสินใจซื้อได้ง่าย แต่ถ้าหากไม่มีเงื่อนไขในการลดราคา จะทำให้ร้านอาหารไม่สามารถคาดการณ์ยอดขายล่วงหน้าได้ และมีโอกาสขาดทุนสูงหรือได้กำไรน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เมื่อรู้ว่ามีส่วนลด มักจะใช้ส่วนลดเพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายเพิ่ม หรือจ่ายน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ส่วนลด 200 บาท เลือกเมนูที่มีราคาเพียง 300 บาท เพื่อให้จ่ายส่วนต่างเพียง 100 บาท เป็นต้น ทำให้ร้านอาหารมีโอกาสขาดทุนได้
ข้อดีของการทำส่วนลดแบบมีขั้นต่ำ
- ทำให้รู้ยอดใช้จ่ายโดยเฉลี่ย หรือ Avg.Spending การทำส่วนลดแบบมีขั้นต่ำ จะทำให้ร้านอาหารสามารถคาดการณ์ยอดใช้จ่ายจากลูกค้า หรือรับรู้รายได้โดยเฉลี่ยล่วงหน้าได้ เนื่องจากลูกค้าที่ทำการจองโปรโมชันและใช้ส่วนลด จะต้องมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำตามเงื่อนไข ทำให้ร้านรู้ได้ว่าลูกค้า Booking นี้จะมีรายได้ประมาณเท่าไหร่
- ร้านได้ยอดขายต่อหัวเพิ่มขึ้น โปรโมชันลดราคา เป็นการตลาดที่ช่วยทำให้ร้านเป็นที่สนใจ ช่วยดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจจองได้ง่าย ซึ่งโปรโมชันส่วนลดแบบมีขั้นต่ำมักจะเป็นแพ็กเกจที่มีราคาสูง เพื่อให้หักส่วนลดแล้วร้านยังมีกำไร ทำให้ในช่วงเวลาโปรโมชันร้านอาหารจะได้ยอดจองในแพ็กเกจที่มีราคาสูงมากกว่าปกติและมียอดขายต่อหัวเพิ่มขึ้น
- เช็คได้ว่าแพ็กเกจที่ทำมีความน่าสนใจจริงหรือไม่ การทำโปรโมชันลดราคา ที่มีการกำหนดขั้นต่ำ ทำให้ลูกค้าต้องตัดสินใจจองแพ็กเกจที่มีราคาขั้นต่ำตามที่กำหนด แม้ว่าโปรโมชันลดราคาจะมี Value ในสายตาลูกค้า แต่แพ็กเกจก็มีส่วนที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจจองสูง หากแพ็กเกจมีความน่าสนใจ เมนูมีความคุ้มค่ามากพอ ลูกค้าก็จะตัดสินใจจองแพ็กเกจหรือสั่งซื้อเมนูนั้นๆ ทำให้ร้านอาหารสามารถวัดผลได้ว่าแพ็กเกจใดหรือเมนูใดเป็นที่สนใจสำหรับลูกค้า นำข้อมูลไปพัฒนาแพ็กเกจโปรโมชันในครั้งต่อไปได้
- สั่งวัตถุดิบได้มากขึ้น ช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบได้ โปรโมชันลดราคาจะดึงดูดให้ลูกค้าใช้บริการมากขึ้น ส่งผลต่อการสต๊อกวัตถุดิบที่ต้องสต๊อกมากขึ้นเพื่อรองรับลูกค้าที่จะมาใช้บริการ ทำให้ร้านอาหารสามารถสั่งซื้อวัตถุดิบจำนวนมากขึ้นได้ ซึ่งการซื้อวัตถุดิบจำนวนมากๆ จะทำให้ราคาทุนของวัตถุดิบต่ำลง ทำให้ร้านอาหารสามารถลดต้นทุนวัตถุดิบได้
- ช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงเวลาที่ทำโปรโมชัน ในการทำโปรโมชัน มักจะมีการกำหนดระยะเวลาและจำนวนสิทธิ์ที่ใช้ได้ ซึ่งการทำโปรโมชันส่วนลด จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจจองได้ง่ายขึ้น เพราะเป็นโปรโมชันที่รู้สึกว่าคุ้มค่า และกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจจองอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาสิทธิ์
เพิ่มยอดขายให้ร้านอาหาร ด้วยการเข้าร่วมโปรโมชันกับ Hungry Hub
Hungry Hub มักจะมีการทำโปรโมชันแจกโค้ดส่วนลด หรือ Voucher Code ให้ลูกค้าสามารถใช้เป็น ส่วนลด กับร้านอาหารต่างๆ ที่ร่วมรายการ โดยมีเงื่อนไขขั้นต่ำตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มยอดขายต่อหัวให้ร้านอาหารและทำให้ร้านอาหารมีกำไรจากการร่วมโปรโมชัน โดยระบบการจองของ Hungry Hub สามารถรองรับการใช้ Voucher Code เพียงกรอกโค้ดและกดใช้คูปองก็สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ทันที เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและลดความยุ่งยากในการจัดการให้กับร้านอาหาร
นอกจากนี้ ร้านอาหารที่ร่วมโปรโมชันส่วนลด หรือ Voucher Code กับ Hungry Hub จะได้รับการโปรโมทในแบนเนอร์หน้าเว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้ร้านอาหารมีโอกาสได้รับการมองเห็นมากกว่าเดิม มีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ๆ จากฐานลูกค้า Hungry Hub
หากร้านอาหาร มีคำถาม หรือต้องการความช่วยเหลือจากทีม Hungry Hub สามารถติดต่อได้ที่ Line: @hhrestaurant
หรือ หากร้านอาหารใหม่ สนใจอยากเข้าร่วม กับ Hungry Hub เพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> คลิก
อ่านบทความสำหรับผู้ประกอบการ ธุรกิจร้านอาหาร เพิ่มเติม
รวม เมนูอาหาร สร้างมูลค่า และดึงดูดลูกค้า ให้ตัดสินใจซื้อในสายตาคนไทย
เพิ่ม เมนูพรีเมี่ยม เพื่ออัพราคาและทำให้ลูกค้าสนใจ